Google เปิดตัวระบบ Maps แบบใหม่ อนุญาตให้เจ้าของร้านรายงานพวก "บอมม์รีวิว" ได้แล้ว

สิ่งที่เลวร้ายที่สุดของคนทำธุรกิจคงจะหนีไม่พ้นการถูกรีวิวในทางเสียหายโดยที่ไม่ได้กระทำผิด โดยอาจมาจากความเกลียดชังส่วนตัวจนนำมาสู่การที่กลุ่มผู้ไม่ประสงค์ดีระดมคนมารีวิวเสีย ๆ หาย ๆ หรือที่เรียกว่าการ “บอมม์รีวิว” ที่ถึงแม้จะฟ้องร้องได้ แต่รีวิวเบื้องหน้าก็ทำธุรกิจเสียหายไปได้มากแล้ว แต่เหมือนจะเป็นข่าวดี เพราะตอนนี้ทาง Google ได้นำเสนอทางออกแบบใหม่ให้แล้ว

จากรายงานโดยเว็บไซต์ The Hacker News ได้กล่าวถึงการที่ทาง Google ประกาศถึงการมาของฟีเจอร์ใหม่บน Google Maps ที่จะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ ที่ประสบปัญหาจากการถูกบอมม์รีวิวเพื่อทำลายธุรกิจ โดยทาง Google ได้กล่าวว่าผู้ประสงค์ร้ายเหล่านี้ได้ทำการฝ่าระบบตรวจสอบ (Moderation) และได้ทำการสแปมด้วยรีวิวที่ไม่เป็นความจริง พร้อมทั้งให้ดาวแค่ 1 ดาว ซึ่งจากการตรวจสอบก็พบว่าหลายรายนั้นไม่เพียงแต่เป็นการจงใจทำลายธุรกิจ แต่ยังทำงานในรูปแบบสแกมเมอร์ที่หลังรีวิวเสร็จก็จะทำการติดต่อเจ้าของธุรกิจ ซึ่งโดยมากจะติดต่อผ่านทางแอปพลิเคชันแบบ 3rd Party เพื่อข่มขู่กรรโชกทรัพย์ (Extortion) ว่าถ้าไม่จ่ายเงิน ก็จะรุมถล่มรีวิวเสียหายเพื่อให้ธุรกิจตกอยู่ในภาวะตกต่ำจากการขาดความเชื่อถือ

แต่สิ่งเหล่านี้กำลังจะเปลี่ยนแปลงไป เพราะระบบใหม่บน Google Maps นั้นกำลังจะเปิดให้เจ้าของธุรกิจทำการรายงานพฤติกรรมการบอมม์รีวิวด้วยความเท็จตลอดจนถึงรายงานพฤติกรรมการก่อกวนกรรโชกทรัพย์เพื่อให้ทาง Google ช่วยจัดการกับรีวิวและผู้ใช้งานที่มีจุดประสงค์ไม่ดีดังกล่าวได้

นอกจากนั้นทาง Google ก็ได้ทำการเตือนภัยออนไลน์หลายอย่างที่กำลังระบาดอย่างหนักอยู่ในปัจจุบันมาในเวลาเดียวกันกับที่ทำการประกาศถึงระบบใหม่ โดยภัยที่ทาง Google ประกาศให้ผู้ใช้งานทำการรับมือนั้นมีดังนี้

ภัยจากประกาศรับสมัครงานปลอม

โดยภัยนี้จะมาจากกลุ่มแฮกเกอร์ทำการประกาศรับสมัครงานปลอมตามบอร์ดรับสมัครงานต่าง ๆ เพื่อจุดประสงค์ต่าง ๆ ในตัวเหยื่อ ไม่ว่าจะเป็นการหลอกให้กรอกใบสมัครงานปลอมเพื่อขโมยข้อมูลส่วนบุคคล, หลอกให้สัมภาษณ์งานทางวิดีโอแบบปลอม ๆ, ตลอดจนหลอกให้ดาวน์โหลดแอปพลิเคชันที่อ้างว่าเกี่ยวข้องกับการสมัครงาน แต่แท้จริงเป็นมัลแวร์ประเภทเข้าควบคุมเครื่องจากทางไกล (RAT หรือ Remote Access Trojan)

แอปพลิเคชันปลอมที่แอบอ้างว่าเป็นเครื่องมือ AI

จากกระแสของ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ที่มาแรง ทำให้แฮกเกอร์นำเอากระแสนี้มาแอบอ้างเพื่อปล่อยแอปพลิเคชันปลอมแฝงมัลแวร์ แล้วนำมาทำการโฆษณาล่อลวงให้เหยื่อดาวน์โหลดผ่านทางโฆษณาแอปพลิเคชันปลอมเพื่อปล่อยมัลแวร์ หรือ Malvertising และ ผ่านทางใช้งานบัญชีโซเชียลมีเดียที่ถูกขโมยมา หรือแม้กระทั่งใช้คลังข้อมูลดิจิทัล (Repo หรือ Repository) เพื่อปล่อยแอปพลิเคชันปลอมดังกล่าวโดยอ้างว่าเป็นเครื่องมือ AI เวอร์ชันใช้งานได้ฟรี

แอปพลิเคชันและส่วนเสริมเว็บเบราว์เซอร์ VPN ปลอม

จากการที่การใช้งานเครือข่ายส่วนบุคคลเสมือน (VPN หรือ Virtual Private Network) เป็นที่นิยมเพื่อฝ่าการบล็อกเว็บ หรือกระทั่งจำเป็นสำหรับคนทำงานและธุรกิจ ทำให้แฮกเกอร์ได้นำเอาสิ่งเหล่านี้มาทำการหลอกลวงเหยื่อด้วยวิธีการหลอกลวงแบบวิศวกรรมทางสังคม (Social Engineering) หลอกให้เหยื่อทำการดาวน์โหลดแอปพลิเคชัน หรือ ส่วนเสริม (Extension) VPN ปลอม ที่แท้จริงแล้วเป็นการดาวน์โหลดมัลแวร์หลากชนิดลงมาบนเครื่อง

บริการกู้ข้อมูลปลอม

เป็นการสแกมรูปแบบหนึ่งที่ทาง Google ทำการแจ้งเตือนว่าเริ่มมีการระบาดแล้ว โดยแฮกเกอร์และสแกมเมอร์จะทำการสมอ้างว่าเป็นบริการการกู้ข้อมูล ที่ตัวบริษัทนั้นเป็นที่ไว้วางใจขององค์กรรัฐและหน่วยงานทางกฎหมายต่าง ๆ โดยจะเป็นการเข้ามาหลอกลวงเหยื่อที่เคยถูกสแกมด้วยวิธีการอื่น ๆ ไปเป็นที่เรียบร้อยแล้วอย่างเช่น การหลอกให้ติดตั้งมัลแวร์จนสูญเสียข้อมูล ทำให้การหลอกในรอบนี้เป็นหลอกแบบซ้ำสอง

โปรวันหยุดปลอม

การหลอกลวงอีกอย่างหนึ่งที่ต้องระวังตัวคือ การหลอกลวงในช่วงเทศกาลวันหยุด และช่วงการชอปปิ้งที่บริษัทห้างร้านทำแคมเปญอัดโปรโมชันต่าง ๆ โดยสแกมเมอร์จะทำการเสนอโปรโมชันปลอมผ่านทางโซเชียลมีเดีย จนนำไปสู่การหลอกเอาเงิน และขโมยข้อมูลส่วนบุคคลในท้ายที่สุด