Windows Security กับ Microsoft Defender คืออะไร ? และ แตกต่างกันอย่างไร ?





Windows Security กับ Microsoft Defender แตกต่างกันอย่างไร ? ไม่ใช่แค่ป้องกันมัลแวร์ แต่มันดูแลเรามากกว่านั้น
ว่าด้วยเรื่องของ Microsoft Defender ซอฟต์แวร์ป้องกันมัลแวร์ (AntiMalware Software) ที่มาพร้อมกับตัวระบบปฏิบัติการ Windows ชื่อนี้สร้างความสับสนให้กับใครต่อใครหลายคน
โดยเมื่อกล่าวถึง Microsoft Defender ผู้ใช้ส่วนใหญ่มักจะนึกถึงซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสที่ถูกติดตั้งรวมมาให้อยู่ใน ระบบปฏิบัติการ Windows แต่อันที่จริง มันถูกเปลี่ยนชื่อเป็น "Windows Security" มาเป็นเวลาหลายปีแล้ว ซึ่งก็ไม่ถือว่าเป็นการเรียกผิดนะ เนื่องจากตัว เอนจิน (Engine) ป้องกันไวรัส ภายใน Windows Security ก็ยังคงใช้ชื่อ Microsoft Defender อยู่เหมือนเดิม
นอกจากนี้ มันยังมีแอปพลิเคชันที่ชื่อ "Microsoft Defender" สำหรับผู้ใช้งานที่สมัครสมาชิก Microsoft 365 ซึ่งสามารถใช้ในการบริหารการตั้งค่าความปลอดภัยของอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 5 เครื่อง ที่อยู่ใน เครือข่ายท้องถิ่น (Local Area Network) ได้
เนื่องจากซอฟต์แวร์ทั้งสองตัวนี้มีความแตกต่างที่ไม่ชัดเจนเท่าไหร่นัก ดังนั้น เรามาเริ่มต้นบทความนี้จากความเป็นมาของมันกันดีกว่า
ภาพจาก : https://www.pcworld.com/article/2766415/windows-defender-isnt-just-pc-antivirus-here-are-all-the-ways-it-protects-you.html
ประวัติของ Defender (The History of Defender)
ต้นกำเนิดของ Defender เดิมทีมันเป็นซอฟต์แวร์ที่ถูกพัฒนาขึ้นมาโดยบริษัท Giant แต่ต่อมาได้ถูก Microsoft เข้าซื้อกิจการในปี ค.ศ. 2004 (พ.ศ. 2547) ซึ่งในช่วงเวลานั้น โปรแกรม สปายแวร์ (Spyware) และ แอดแวร์ (Adware) กำลังแพร่ระบาดบนคอมพิวเตอร์ที่ใช้ระบบปฏิบัติการ Windows อย่างหนัก ทำให้ Microsoft ต้องดำเนินการหาทางแก้ไข ซึ่งการเทคโอเวอร์บริษัท Giant ก็เป็นหนึ่งในแผนการแก้ปัญหา
หลังจากเข้าซื้อกิจการของ Giant แล้ว ทาง Microsoft ได้เปลี่ยนชื่อซอฟต์แวร์จาก Defender เป็น Windows Antispyware และเปิดให้ผู้ใช้งานระบบปฏิบัติการ Windows XP สามารถดาวน์โหลดไปใช้งานได้ฟรี
ต่อมาในปี ค.ศ. 2005 (พ.ศ. 2548) Windows Antispyware ถูกผนวกรวมเข้าไว้กับระบบปฏิบัติการ Windows Vista ที่เพิ่งได้รับการพัฒนาใหม่
ในช่วงแรก Windows Antispyware สามารถป้องกันได้เฉพาะ Adware และ Spyware เท่านั้น ส่วนการป้องกัน มัลแวร์ (Malware) ประเภทอื่น เช่น หนอนคอมพิวเตอร์ (Computer Worm) และ โทรจัน (Trojan) ผู้ใช้ยังคงต้องพึ่งพาซอฟต์แวร์ แอนตี้ไวรัส (Antivirus) จากผู้ผลิตรายอื่น
จนกระทั่งในปี ค.ศ. 2012 (พ.ศ. 2555) Microsoft ได้เปิดตัว Windows Defender ซอฟต์แวร์รักษาความปลอดภัยตัวใหม่ พร้อมกับการเปิดตัวระบบปฏิบัติการ Windows 8 ซึ่งเครื่องมือนี้ได้เข้ามาแทนที่ Microsoft Security Essentials ที่เปิดให้ดาวน์โหลดมาใช้งานได้ฟรีมาตั้งแต่ปี ค.ศ. 2009 (พ.ศ. 2552) ซึ่ง Windows Defender ถูกปรับปรุงให้สามารถตรวจจับมัลแวร์ทุกประเภทได้แล้ว และเริ่มกลายเป็นส่วนสำคัญของระบบปฏิบัติการของ Windows ตั้งแต่นั้นเป็นต้นมา
บนระบบปฏิบัติการ Windows 10 ทาง Microsoft เริ่มพัฒนาให้ Windows Defender สามารถดูแลความปลอดภัยได้ครอบคลุมมากขึ้น โดยมีการประสานงานร่วมกับเครื่องมืออื่น ๆ ซึ่งผู้ใช้งานสามารถจัดการผ่าน Windows Defender Security Center ได้
ปัจจุบันนี้ Windows Defender Security Center ถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Windows Security มีหน้าที่ดูแลส่วนประกอบต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการรักษาความปลอดภัยทั้งหมดของระบบปฏิบัติการ
ภากจาก : https://www.pcworld.com/article/2766415/windows-defender-isnt-just-pc-antivirus-here-are-all-the-ways-it-protects-you.html
Windows Security คืออะไร ? (What is Windows Security ?)
Windows Security ประกอบด้วยองค์ประกอบ (Module) อยู่หลายส่วน ซึ่งแต่ละองค์ประกอบจะมีบทบาทเกี่ยวกับการปกป้องข้อมูล และความปลอดภัย ต่าง ๆ ภายในระบบปฏิบัติการ Windows โดยรายละเอียดของแต่ละองค์ประกอบจะมีดังต่อไปนี้
Virus & Threat Protection
ในส่วนนี้ ผู้ใช้จะพบกับเครื่องมือป้องกันไวรัส Microsoft Defender Antivirus รวมถึงการป้องกัน มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) ซึ่งออกแบบมาเพื่อเฝ้าระวังการเข้าถึงโฟลเดอร์ของ Windows
Account Protection
ในองค์ประกอบนี้ ผู้ใช้สามารถควบคุมการซิงค์ข้อมูลสำคัญของผู้ใช้ กับบริการ คลาวด์ (Cloud) OneDrive รวมถึงตัวเลือกการเข้าสู่ระบบ Windows ด้วย
Firewall & Network Protection
ใช้ในการตั้งค่าระบบ ไฟร์วอลล์ (Firewall) ของ Windows
App & Browser Control
ในระบบปฏิบัติการ Windows มีตัวเลือกมากมายสำหรับการรักษาความปลอดภัยให้แอปพลิเคชัน และเข้าชมเว็บไซต์ที่เป็นอันตราย รวมถึงการป้องกัน ฟิชชิ่ง (Phishing)
ภาพจาก : https://www.pcworld.com/article/2766415/windows-defender-isnt-just-pc-antivirus-here-are-all-the-ways-it-protects-you.html
Device Security
ส่วนนี้รวมฟังก์ชันภายในของระบบปฏิบัติการ Windows ที่เกี่ยวข้องกับการทำงานร่วมกับฮาร์ดแวร์รักษาความปลอดภัยในคอมพิวเตอร์ของคุณ
Device Performance & Health
รายงานเกี่ยวกับสถานะความปลอดภัยในปัจจุบันของระบบปฏิบัติการ จะสามารถเข้ามาตรวจสอบได้ที่นี่
Family Options
องค์ประกอบนี้จะเชื่อมโยงไปยังระบบการจัดการออนไลน์ (Online Administration) ซึ่งเน้นไปที่การตั้งค่าการควบคุมโดยผู้ปกครองในบัญชี Microsoft ของผู้ใช้
Protection History
จะบันทึกการดำเนินการที่เกี่ยวข้องกับการป้องกันไวรัส และโปรแกรมที่อาจมีความไม่พึงประสงค์ จะถูกนำมาแสดงในส่วนนี้
Microsoft Defender คืออะไร ? (What is Microsoft Defender ?)
ก่อนอื่น อย่าสับสน "Microsoft Defender Antivirus" กับแอป "Microsoft Defender" หรือ "Microsoft Defender for Individuals"
Microsoft Defender มีชื่อเดียวกันกับระบบป้องกันไวรัส ที่ใช้ใน Windows Security เพื่อปกป้องจากมัลแวร์ แต่ทั้งสองไม่ได้เชื่อมโยงกันโดยตรง เพราะแอป Microsoft Defender ออกแบบมา เพื่อเพิ่มการป้องกันภัยออนไลน์สำหรับสมาชิก Microsoft 365 Personal หรือ Family มันสามารถทำงานร่วมกับ Windows Security หรือซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสจากผู้ให้บริการ บุคคลที่สาม (3rd-Party) ได้
Microsoft Defender เป็นแอปพลิเคชันที่ถูกเปิดตัวในเดือนมิถุนายน ค.ศ. 2022 (พ.ศ. 2565) โดยมีให้บริการเฉพาะสำหรับผู้ใช้ที่สมัครแพ็กเกจ Microsoft 365 Office เวอร์ชัน Single และ Family ซึ่งจะถูกติดตั้งโดยอัตโนมัติมาพร้อมกับชุด Office หรือถ้าหากมันไม่ติดตั้งให้อัตโนมัติ ก็สามารถดาวน์โหลดได้ฟรีจาก Microsoft Store
Microsoft Defender สามารถจัดการความปลอดภัยของอุปกรณ์ได้สูงสุดถึง 4 เครื่อง ผ่านแดชบอร์ดกลาง (Central Dashboard) ซึ่งอุปกรณ์ที่ว่านี้ไม่ได้จำกัดแค่ คอมพิวเตอร์ (PC) หรือ โน้ตบุ๊ก (Notebook) เท่านั้น แต่ยังรวมไปถึง สมาร์ทโฟน (Smartphone) และ แท็บเล็ต (Tablet) ด้วย ไม่ว่าจะเป็นระบบปฏิบัติการ Android หรือว่า iOS แม้แต่ macOS ก็ครอบคลุมด้วยเช่นกัน โดยมันสามารถแจ้งเตือนเกี่ยวกับภัยคุกคามที่ตรวจพบใหม่แล้วส่งไปยังทุกอุปกรณ์พร้อมกันได้
สิ่งที่น่าสนใจคือ Microsoft Defender ไม่เพียงทำงานร่วมกับเครื่องมือป้องกันไวรัสภายในอย่าง Microsoft Defender Antivirus เท่านั้น แต่ยังสามารถใช้งานร่วมกับซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสในท้องตลาดได้เกือบทุกตัวอีกด้วย ตัวอย่างเช่น มันสามารถส่งต่อข้อความแจ้งเตือนจาก โปรแกรม Avast หรือ โปรแกรม Norton Antivirus ก็สามารถทำได้เช่นกัน
ภาพจาก : https://www.pcworld.com/article/2766415/windows-defender-isnt-just-pc-antivirus-here-are-all-the-ways-it-protects-you.html
โดยรายละเอียดของ Microsoft Defender หลัก ๆ จะประกอบไปด้วย
Identity Theft Monitoring
ด้วยการจับมือเป็นพันธมิตรกับ Experian ช่วยให้ Microsoft Defender สามารถช่วยแจ้งเตือนผู้ใช้เกี่ยวกับ "ข้อมูลที่รั่วไหล" และ "กิจกรรมฉ้อโกง" ที่เกิดขึ้นได้ และบริการนี้ยังให้ ค่าชดเชยสูงสุดถึง 1 ล้านดอลลาร์ (ประมาณ 33,047,996 บาท) สำหรับการกู้คืนข้อมูล และ 100,000 ดอลลาร์ (ประมาณ 3,304,350) สำหรับเงินที่สูญเสียไป หากคุณตกเป็นเหยื่อของการโจรกรรมข้อมูลส่วนบุคคล
ภาพจาก : https://www.pcworld.com/article/2365774/windows-security-vs-microsoft-defender-vital-differences-you-should-know.html
Device Protection
ผู้ใช้สามารถตรวจสอบว่าอุปกรณ์ (สูงสุด 4 เครื่อง) หรืออุปกรณ์ที่เชื่อมกันผ่าน Microsoft Family Group มี กิจกรรมที่น่าสงสัย หรือไม่ ? โดยระบบจะแจ้งเตือนผ่าน Windows Notification System และผู้ใช้ยังสามารถดูการแจ้งเตือนผ่านแอป Defender ได้อีกช่องทางด้วย
ก่อนหน้านี้ ตัว Microsoft Defender เคยมีคุณสมบัติ VPN เข้ารหัส ที่เรียกว่า Privacy Protection ซึ่งให้บริการ ข้อมูลปริมาณสูงสุด 50GB ต่อเดือน เพื่อใช้ตรวจจับเครือข่าย ไวไฟ (Wi-Fi) ที่ไม่ปลอดภัย และรองรับหลายแพลตฟอร์ม อย่างไรก็ตาม ในเดือนกุมภาพันธ์ ค.ศ. 2025 (พ.ศ. 2568) ทาง Microsoft ได้ยุติการให้บริการ Privacy Protection และนำออกจาก Microsoft Defender บนระบบปฏิบัติการ Windows
Windows Security กับ Microsoft Defender แตกต่างกันอย่างไร ? (What is the difference between Windows Security and Microsoft Defender ?)
Windows Security และ Microsoft Defender เป็นซอฟต์แวร์ที่ทำงานร่วมกัน ไม่ใช่คู่แข่งกันแต่อย่างใด
Windows Security มีหน้าที่ปกป้องจากภัยจากโลกออนไลน์ รวมถึง มัลแวร์เรียกค่าไถ่ (Ransomware) และมีให้ใช้งานฟรีพร้อมกับ Windows เวอร์ชันลิขสิทธิ์
ในขณะที่ Microsoft Defender เป็นบริการเสริมด้านความปลอดภัย สำหรับสมาชิก Microsoft 365 Personal หรือ Family ช่วยปกป้องผู้ใช้งานจากกิจกรรมออนไลน์ต่าง ๆ และจากผู้ใช้รายอื่นบนเครือข่ายเดียวกัน พร้อมทั้งแจ้งเตือนข้อมูลที่รั่วไหล และการฉ้อโกงเครดิต รวมถึงสามารถตรวจสอบช่องโหว่ของอุปกรณ์ เพื่อช่วยให้ผู้ใช้รักษาความปลอดภัยได้อย่างมีประสิทธิภาพ
หากคุณเป็นสมาชิกบริการ Microsoft 365 อยู่แล้ว การตั้งค่า Windows Security และ Microsoft Defender ให้ทำงานร่วมกันได้ ถือเป็นทางเลือกที่คล้ายกับชุดซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสจากผู้ให้บริการ 3rd-Party แต่มีความเรียบง่ายกว่า และที่สำคัญคือ ไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม
อย่างไรก็ตาม หากคุณยัง ไม่ได้เป็นสมาชิกแบบเสียเงินของ Microsoft 365 แล้วต้องการคุณสมบัติด้านการปกป้องเพิ่มเติม เช่น เครื่องมือจัดการรหัสผ่าน หรือชอบ ส่วนต่อประสานกับผู้ใช้ (User Interface - UI) ที่แตกต่างออกไป ซอฟต์แวร์ป้องกันไวรัสจากผู้พัฒนารายอื่น ก็อาจเป็นตัวเลือกที่เหมาะกับคุณมากกว่า