ไทยติดโผอันดับ 3 "ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์" ธุรกิจ 469 ราย ถูกดำเนินคดี

เมื่อ :
ผู้เข้าชม : 6,321
เขียนโดย :
image_big
image_big
เมื่อ :
ผู้เข้าชม : 6,321
เขียนโดย :

เคลียให้ชัดทำไมต้องใส่ใจกับ "ลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์"

ซอฟต์แวร์ หรือ ชุดคำสั่งของระบบคอมพิวเตอร์ที่ใช้ในการจัดเก็บและประมวลผลข้อมูล ซอฟต์แวร์นั้นนอกจากจะสามารถใช้งานบนคอมพิวเตอร์ได้แล้ว ยังสามารถใช้งานบนเครื่องใช้ หรืออุปกรณ์อื่น เช่น โทรศัพท์มือถือ หรือหุ่นยนต์ในโรงงาน หรือเครื่องใช้ไฟฟ้าต่าง ๆ 

“ทำไมถึงใช้ซอฟต์แวร์เถื่อน"

ตลอดระยะเวลาตั้งแต่ พ.ศ. 2558 ถึงปัจจุบัน กรมทรัพย์สินทางปัญญาได้พยายามบูรณาการให้เกิดความตระหนักเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ให้เกิดขึ้นทั้งภาครัฐ และเอกชน โดยเฉพาะเรื่องของทรัพสินย์ซอฟต์แวร์ ที่มีการจับมือร่วมกับ  ‘BSA’ พันธมิตรซอฟต์แวร์ และกองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (บก. ปอศ) ที่ดำเนินให้เกิดการบังคับใช้กฎหมายและปราบปรามอย่างถึงที่สุด

อันที่จริงแล้วทุกคนอาจจะทราบดีว่าการใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนเป็นเรื่องที่ผิด แต่คำถามคือ

“ทุกคนใส่ใจกับมันแค่ไหน”

ซึ่งน้อยคนนักที่จะทราบถึงความเสี่ยงของการโหลดซอฟต์แวร์เถื่อน โดยสาเหตุมักเกิดจาก

  • ของแท้มีราคาแพง และมีค่าใช้จ่ายสูง
  • ตัวสินค้าก็มีคุณภาพเทียบเท่าของจริง
  • แฮกเกอร์หลอกตัวเองว่าไม่ได้ผิด เพราะทำซ้ำมาเพื่อเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ให้คนอื่นได้ใช้เหมือนกัน 
  • กลไกในการบังคับใช้กฎหมายที่ยังไม่ค่อยมีประสิทธิภาพเท่าที่ควร และการหาตัวผู้กระทำความผิดก็ทำได้ยากเช่นกัน

จากสาเหตุเหล่านี้ ทำให้การละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์กลายเป็นเรื่องที่คนทั่วไปมักมองข้ามและยังส่งผลไปถึงทัศนคติของกลุ่มธุรกิจ ซึ่งส่วนใหญ่ยังไม่มีการบริหารจัดการสินทรัพย์ซอฟต์แวร์ (Software Asset Management : SAM) เพราะ

  • ขาดความร่วมมือทางนโยบาย
  • ขาดคนมีความสามารถด้าน IT
  • ขาดการฝึกอบรมการจัดการกับลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

ความเสี่ยงของการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ไม่ใช่แค่เรื่องกฎหมาย

ไทยติดโผอันดับ 3 "ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์" ธุรกิจ 469 ราย ถูกดำเนินคดี

บางคนเข้าใจว่าทุกวันนี้ความเสี่ยงจากการใช้ซอฟต์แวร์เถื่อนคือ “กฎหมาย” เพียงอย่างเดียว เพราะถ้ายังไม่ถูกจับได้ก็ไม่เป็นอะไร แต่นอกเหนือการถูกฟ้องร้องหรือถูกดำเนินคดีจากเจ้าของลิขสิทธิ์แล้วก็ยังมีความเสี่ยงอีกมาก ดังนั้นโปรดสำรวจตัวเองว่าคุณกำลังละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อยู่หรือไม่ เพราะถ้าใช่ความเสี่ยงเหล่านี้กำลังจะเกิดขึ้นกับคุณในไม่ช้า

1.ถูกดำเนินคดีตามกฎหมาย ถูกปรับสูงสุดถึง 800,000 บาท จำคุก 4 ปี ซึ่งเป็นโทษสูงสุดที่บัญญัติไว้ภายใต้พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ. 2537 ซึ่งแก้ไขเพิ่มเติมโดยพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2558 และพระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ (ฉบับที่ 3) พ.ศ. 2558 

2.ถูกแฮ็กเกอร์ใช้เป็นช่องทางปล่อยมัลแวร์แฝงมาในซอฟต์แวร์เถื่อนสู่คอมพิวเตอร์ของคุณ เพื่อล้วงข้อมูลส่วนตัวของเรา

3.หากเกิดขึ้นในธุรกิจที่ติดตั้งของเถื่อนจากเว็บไซต์ นั่นหมายความว่า ความลับทางธุรกิจของบริษัท ไม่ว่าจะเป็นข้อมูลการค้า การเงิน โครงการต่างๆ อาจถูกแฮ็กเกอร์ล้วงความลับนำข้อมูลไปขาย

4.สูญเสียความเชื่อมั่น ความหมายคือ ผู้พัฒนาจะไม่เชื่อมั่น และไม่สนับสนุนการค้าซอฟต์แวร์ในประเทศไทย นั่นหมายถึง ธุรกิจหรือคนทั้งประเทศจะเสียโอกาสได้รับเทคโนโลยีใหม่ๆ เช่น ซอฟต์แวร์ใหม่ เอไอ หรือ Internet of Things (IoT) 

( Internet of Things (IoT) คือ "อินเตอร์เน็ตในทุกสิ่ง" หมายถึง การที่อุปกรณ์ต่างๆ สิ่งต่างๆ ได้ถูกเชื่อมโยงทุกสิ่งทุกอย่างสู่โลกอินเตอร์เน็ต ทำให้มนุษย์สามารถสั่งการควบคุมการใช้งานอุปกรณ์ต่างๆ ผ่านทางเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เช่น การเปิด-ปิด อุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้า (การสั่งการเปิดไฟฟ้าภายในบ้านด้วยการเชื่อมต่ออุปกรณ์ควบคุม เช่น มือถือ ผ่านทางอินเตอร์เน็ต) รถยนต์ โทรศัพท์มือถือ เครื่องมือสื่อสาร เครื่องมือทางการเกษตร อาคาร บ้านเรือน เครื่องใช้ในชีวิตประจำวันต่างๆ ผ่านเครือข่ายอินเตอร์เน็ต เป็นต้น)

ไทยติดโผอันดับ 3 อาเซียน "ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์"

ไทยติดโผอันดับ 3 "ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์" ธุรกิจ 469 ราย ถูกดำเนินคดี

นางสาวนุสรา กาญจนกูล รองอธิบดีกรมทรัพย์สินทางปัญญา เปิดเผยว่า อย่างที่ทราบดีว่าตอนนี้มีการพยายามบูรณาการหลายหน่วยงานเพื่อจัดการปัญหาละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ ซึ่งได้จับเป็นพันธมิตรกับ ‘BSA’ และ กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ

โดย 'BSA' ได้จัดอันดับการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในกลุ่มประเทศสมาชิกอาเซียน และพบว่าไทยติดอันดับ 3 ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์มากที่สุด คิดเป็น 66 % จากทั่วประเทศ เป็นรองเพียง อินโดนิเซีย และเวียดนามเท่านั้น 

ซอฟต์แวร์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์สูงสุดคือ 

1.ซอฟต์แวร์ประเภทออกแบบเขียนแบบที่ใช้ในอุตสาหกรรมการผลิต

2.ซอฟต์แวร์ออกแบบเขียนแบบด้านสถาปัตยกรรม

3.ซอฟต์แวร์ออกแบบเขียนแบบด้านวิศวกรรม

4.ซอฟต์แวร์ที่ใช้ในสำนักงานตามลำดับ

ไทยติดโผอันดับ 3 "ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์" ธุรกิจ 469 ราย ถูกดำเนินคดี
ภาพจาก https://ww2.bsa.org/?sc_lang=th-TH

ทั้งนี้กองบังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจเองยังมีรายงานสรุปการปราบปรามดำเนินคดีในปี 2562 ผลคือมีการดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์กับองค์กรธุรกิจจำนวน 469 คดี มูลค่าความเสียหายมากกว่า 464 ล้านบาท ซึ่งยังมีอีกกว่า 100 บริษัทที่อยู่ระหว่างการตรวจสอบ

ในจำนวนนี้กว่า 30 % เป็นธุรกิจขนาดใหญ่ที่มีชื่อเสียง

ส่วนอันดับอุตสาหกรรมธุรกิจที่ถูกดำเนินคดีละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

1.อุตสาหกรรมการผลิต (48%) 

2.อุตสาหกรรมอสังหาริมทรัพย์และก่อสร้าง (17%) 

3.อุตสาหกรรมออกแบบและตกแต่งภายใน (16%) 

4.ธุรกิจบริการ (10%) 

5.และอื่นๆ (9%) 

บางรายมีการพยายามประหยัดงบโดยการซื้อซอฟต์แวร์ผิดประเภท คือใช้ไลเซนส์สำหรับสถานศึกษา ที่มีราคาถูกกว่าไลเซนส์สำหรับธุรกิจ 

กฎหมายใหม่ ก้าวต่อไปของการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์

อย่างไรก็ตามการสร้างความตระหนักรู้ในเรื่องการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์อาจไม่ใช่แค่เพียงรณรงค์กับผู้กระทำผิดเท่านั้น แต่ภาครัฐก็ควรมีการผลักดันบางอย่าง ให้เกิดการพัฒนาด้วย เช่นสร้างบุคคลากรให้มีความเชี่ยวชาญมาทำงาน เพื่อช่วยในการสืบค้นหาหลักฐาน ปราบปรามเพื่อปกป้องสิทธิ์ของเจ้าของ หรือการออกกฎหมายที่รับรองการคุ้มครองลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์เพิ่มขึ้น 

ไทยติดโผอันดับ 3 "ละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์" ธุรกิจ 469 ราย ถูกดำเนินคดี

ทั้งนี้ในปี พ.ศ. 2563 กรมทรัพย์สินทางปัญญากำลังเดินหน้าจัดทำคู่มือจัดซื้อลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ในภาครัฐ และแก้ไขกฎหมายลิขสิทธิ์ให้ทันสมัยเพื่อรองรับการเข้าเป็นภาคีสนธิสัญญาลิขสิทธิ์ดิจิทัล (WCT) 

ซึ่งสถานะร่าง พ.ร.บ. ลิขสิทธิ์ใหม่ อยู่ระหว่างรอหนังสือให้ยืนยันร่างกฎหมายที่ผ่านการพิจารณาจาก คณะกรรมการกฤษฎีกา เพื่อออกเป็นร่างกฎหมาย  คาดว่าออกได้ในปีนี้ ซึ่งจะเพิ่มเติมในด้าน

  • แก้ไขขยายอายุการคุ้มครองงานภาพถ่าย

  • แก้ไขข้อยกเว้นความรับผิดของผู้ให้บริการ

  • แก้ไขบทบัญญัติเกี่ยวกับการคุ้มครองมาตรการทางเทคโนโลยี

  • แก้ไขปรับปรุงความต่อเนื่องของการดำเนินงานของคณะกรรมการลิขสิทธิ์

รวมถึงปรับปรุงบทบัญญัติเกี่ยวกับการยกเว้นความรับผิดของผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ต (ISP) โดยอาศัยความร่วมมือระหว่างเจ้าของลิขสิทธิ์และผู้ให้บริการอินเทอร์เน็ตในการแจ้งเตือนการละเมิดลิขสิทธิ์และนำงานละเมิดลิขสิทธิ์ออกจากระบบ หรือที่เรียกว่า ระบบ Notice and Takedown ที่ได้รับหลักการมาจาก Digital Millennium Copyright Act (DMCA) ของสหรัฐอเมริกา คือ การกำหนดกระบวนการในการให้เจ้าของลิขสิทธิ์สามารถส่งคำแจ้งเตือน (Notice) ไปยังผู้ให้บริการได้โดยตรง เพื่อผู้ให้บริการนำข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่มีการละเมิดลิขสิทธิ์ ออกจากระบบคอมพิวเตอร์ของตน (Takedown) ได้อย่างทันท่วงที โดยไม่ต้องยื่นคำร้องขอต่อศาลเพื่อให้ศาลมีคำสั่ง ทั้งนี้ เพื่อให้สามารถยับยั้งการละเมิดได้อย่างรวดเร็วมากยิ่งขึ้น

นอกจากนี้ยังกำหนดให้ผู้ใช้บริการ ซึ่งเป็นผู้นำเข้าข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่ถูกกล่าวอ้างว่าละเมิดลิขสิทธิ์นั้น สามารถโต้แย้งการนำงานออกจากระบบได้ หากเห็นว่างานที่ตนนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ของผู้ให้บริการ ไม่ใช่งานที่ทำขึ้นโดยละเมิดลิขสิทธิ์

ทั้งหมดทั้งมวลนี้เกิดขึ้นโดยมีความคาดหวังว่าเมื่อมีการประชาสัมพันธ์ให้ตระหนักรู้ในวงกว้างแล้ว คนไทยจะช่วยกัน และลดปัญหาการละเมิดลิขสิทธิ์ซอฟต์แวร์ได้มากขึ้น ซึ่งจะช่วงสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ค้าและนักลงทุนทั้งไทยและต่างประเทศได้

ต้นฉบับ :
Copyright Notice : All Rights Reserved. Copyright 1999-2024
Antivirus.in.th is owned and operated by Thaiware Communication Co., Ltd.